สายฝนโปรยปรายละอองเส้นสายพร่างพราวร่วงลงสู่พื้นปฐพี เสียงฝีเท้าเล็กๆวิ่งผ่านท้องทุ่งหญ้าสูงเทียมเข่า ผ้าเนื้อบางเบาสีเหลืองอ่อนลาดปลิวไปตามแนวยอดหญ้า สาดแสงอาทิตย์ประกายทองฉาบทอบนท้องฟ้าที่ทอแสงสุดท้ายก่อนจะลับสายตาไป หยางอวี้เยา ดรุณีน้อยปีนี้อายุสิบห้าเต็ม บนหน้างามประปรายด้วยหยาดฝน แววตาทอประกายระยิบระยับเอ่อล้นไปด้วยหยาดน้ำตา เยาเยายกมือขึ้นปาดน้ำตาที่หยดรวมกับหยาดฝนบนหน้า นางวิ่งออกตามหา เจาหนาน นายน้อยเเห่งสกุลหยาง ปีนี้อายุยี่สิบปี ผู้เพียบพร้อมด้วยรูปทรัพย์และทรัพย์สมบัติ เก่งทั้งบู๊และบุ๋น ผู้ซึ่งเป็นพี่ชายต่างสายเลือดกับนาง คนที่นางเฝ้าเพียรพยายามหาทางใกล้ชิดตั้งแต่เด็กและเขาก็เริ่มหลบหลีกนางเมื่อหลายปีที่ผ่านมา ใช่ว่านางจะไม่รู้ถึงเหตุผลที่เจาหนานวางตัวออกห่างจากนางเพราะนางหาใช่หญิงสาวอันเยาว์วัยดั่งผิวพรรณและอายุไม่ ภายในตัวนางนั้นยังคงเป็นเสี่ยวเยาในอดีตที่รักปักใจปองกับเจาหนาน ในชาติที่เเล้วเขาเป็นสามีของนาง เป็นมือปราบศาลต้าชิง นางกับเขาทำไร่ไถนาในชนบทชานเมืองเล็กๆชีวิตสงบสุข จวบจนในฤดูหนาวไข้ป่าระบาดชีวิตที่ปิดปลิวเหมือนใบไม้ในชาติที่แล้วของเขาก็มาถึงครรลองเเห่งความตาย นางกอดร่างกายของเขาที่เย็นเยียบไว้ทั้งคืน น้ำตาที่ไหลออกมาดั่งสายเลือดวันที่เจ็บปวดที่สุดในชีวิตเมื่อต้องรู้ว่าไม่มีเขาอีกแล้วในวันพรุ่งนี้ที่ตะวันยังขึ้นที่ทิศทางเดิม ข้าวของในบ้านหลังน้อยชานเมือง ทุกอย่างเหมือนเดิมเเต่หากไม่มีเขา คนที่จะคอยปลอบนางเมื่ออ่อนแอ คอยโอบกอดยามค่ำคืนที่เหน็บหนาว คนที่คอยแบ่งปันรอยยิ้มและเสียงหัวเราะกับความสุขเล็กๆน้อย ยิ่งคิดหัวใจนางก็ยิ่งบีบรัดด้วยความเจ็บปวด วันเวลาที่นางอยู่อย่างโดดเดี่ยวเฝ้ารอจะได้พบกับเขาอีกสักครั้งในวันที่นางหมดลมหายใจช่างยาวนานชั่วกัลป์ชั่วกัลย์ เยาเยาปาดน้ำตาแห่งความอาดูรใจพร้อมย่ำรอยเท้าบางไปตามเเนวเขา 'ข้าจะไม่ยอมให้ท่านจากข้าไปอีกแล้ว ท่านพี่' เยาเยากำมือน้อยๆของนางจนห้อเลือดข้อนิ้วซีดขาวและไม่ผ่อนแรงวิ่งแม้เเต่น้อย
อีกด้านหนึ่ง เจาหนาน ชายหนุ่มหล่อเหลา สง่าผ่าเผยในอาภรณ์ชุดคราม สายลมและส่ยฝนหวีดหวิวข้างหูตีกระทบใบหน้า ยามที่เขาขี่ม้าศึกเตรียมออกจากเมืองต้าชิงอันเป็นบ้านเกิดเมืองนอนของเขา เขาผู้ซึ่งต่อกรกับอริศัตรูทุกคนในใต้หล้าหาเกรงกลัวใครไม่ แต่มีเพียงสิ่งเดียวในโลกใบนี้ที่เขาไม่อาจต้านทานได้ เยาเยา น้องสาวตัวน้อยที่ติดตามเขาดังเงาตามตัว ตั้งแต่เล็กแต่น้อยเขาเข้าใจว่านางโดดเดี่ยวด้วยนางกำพร้ามาแต่เด็ก ท่านแม่รับเลี้ยงนางจากสำนักนางชีประจำตระกูล เมื่อยังเยาว์เขายังจำได้ถึงตาโตดำขลับสุกสกาวดั่งดาวบนท้องฟ้าที่มืดมิด สายตานั้นได้ขโมยเอาความอบอุ่นที่อยู่ก้นบึ้งหัวใจของเขาไปตั้งเเต่ครั้งที่เขาพบนางครั้งเเรก ตอนนั้นเขามีอายุเพียงหกขวบและเยาเยา นางอายุยังไม่ครบขวบปีเต็ม มือน้อยที่อ้วนอูมของทารกเอื้อมคว้าจับเขาไว้ ทุกค่ำคืนนางจะร้องเสียงดังหากมิได้จับมือเขาไว้นางจะนอนไม่หลับ จึงเป็นหน้าที่ของเขาที่จะต้องกล่อมนางนอนเพียงยื่นมือเขาให้นางจับ ท่านแม่เคยหาคนรับใช้ในจวนที่มีขนาดมือและสัมผัสที่ใกล้เคียงกับเขามากที่สุดมาเพื่อทำหน้าที่นี้ เเต่เยาเยาเหมือนจะสัมผัสได้ว่าไม่ใช่เขา เป็นอันทำให้ท่านแม่เลิกล้มความตั้งใจนี้ไปในที่สุด จริงๆแล้วเขาก็รู้สึกสงบ และมีความสุขอบอุ่นหัวใจทุกครั้งที่อยู่ใกล้นาง ถือว่าเป็นหน้าที่ที่ยินยอมกันทั้งสองฝ่ายอย่างแท้จริง จวบจนสิบปีผ่านไปร่างกายนางเกิดความเปลี่ยนแปลงจากเด็กหญิงตัวน้อยไปสู่ดรุณีงามเฉิดฉัน สวยสะพรั่งดังดอกเหมยบานในช่วงฤดูใบไม้ผลิ นางดูอ่อนหวาน งดงามบอบบาง หากแต่มีความเข้มแข็งมีความเฉลียวฉลาดฉะฉานมั่นใจในท่วงท่า นางอ้อนวอนให้เขาสอนวรยุทธ์ให้ เขาเห็นสมควรให้มีวรยุทธ์ติดตัวไว้เพื่อเหตุการณ์ใดๆในอนาคตหากเขามิได้อยู่ข้างกายนาง ใช่แล้ววันหนึ่งนางก็ต้องเเต่งงานออกเรือนไปวันนั้นคงเป็นวันที่เขาไม่อยากให้มาถึง ทำไม..เขาเคยเฝ้าถามตัวเองแต่ความผิดถูกในจิตใจเขาสั่งห้ามไม่ให้เขาคิดเกินเลยไปกว่านั้น นางเติบโตขึ้นทุกวัน เขาและนางหาใช่เด็กน้อยในวันวาน อีกทั้งตัวเขาก็มีความต้องการอย่างที่บุรุษเพศพึงมี เหตุนี้เองทำให้ในช่วงห้าหกปีที่ผ่านมาเขาขอประมุขตระกูลหยาง หยางเส้าชิง ท่านพ่อของเขาให้ส่งเขาออกไปดูเเลร้านค้าของตระกูลตามหัวเมืองต่างๆ ขณะที่ความคิดกำลังล่องลอยไป อาชาคู่ใจสีดำขลับขนมันวาววับของเขาก็ส่งเสียงร้องดัง เขารั้งบังเหียน ม้ายกขาคู่หน้าชี้ขึ้นและหยุดได้ทันท่วงที หางตาของเขาเห็นชายผ้าสีเหลืองอ่อนปลิวไหว ดรุณีน้อยข้างหน้าสีหน้าแม้มีความหวาดหวั่นแต่มิได้หวาดกลัว นัยตาของนางมีแววความรั้นและความโมโห นางยืนขวางม้าของเขาด้วยขาที่สั่นระริกแม้นางพยายามยืนหยัดแต่ก็โอนเอนเหลือเกิน เมื่อเขาเพ่งดวงหน้าละมุนน้อยนิดภายใต้เเสงจันทร์นวลนั้นก็พบคราบน้ำตาที่นางเพียรเช็ด เห็นดังนั้นโทสะที่ถูกนางขวางอย่างอันตรายเพียงเสี้ยววินาทีนั้นห็เบาบางลง แต่หาได้จางหายไปหมดไม่ "เจ้า!! เข้ามาขวางข้าแบบนี้รู้หรือไม่ว่าอันตรายเพียงใด" เจาหนานตะคอกด้วยเสียงอันดัง ไหล่บางของนางสะท้อนเล็กน้อย "ท่าน!! เหตุใดต้องจากไปอีก เดือนนี้ท่านพักอยู่บ้านไม่ถึงห้าวันดี ข้าไม่อยากให้ท่านไป" จบประโยคน้ำตาเม็ดโตใสก็หยดลงบนแก้มนวลใสที่แดงด้วยการออกวิ่งมาอย่างไม่หยุดหย่อน นางเกิดและเติบโตที่นี่ เส้นทางลัดนางรู้จักทุกสายหากแต่ต่อให้ลัดเพียงไรก็ยากที่จะสู้ม้าศึกที่ห้อตะบัน ทำให้นางวิ่งไม่หยุดพัก หากนางไม่ใช้วิทยายุทธ์ตัวเบา คาดว่าป่านนี้คงได้คลาดกับเขาไปแล้ว ก่อนที่นางจะเอ่ยประโยคต่อไป เจาหนานก็คว้าโอบอุ่มนางไว้ในอ้อมกอดอันอบอุ่น "ข้าจะพาเจ้ากลับบ้าน" เขาทันเห็นรองเท้านางและเนื้อตัวที่เปียกปอนไปด้วยสายฝน นางในสภาพนี้ก็หาได้ลดความงามใดๆลงไม่ ไม่รู้เมื่อไรเป็เน้อยตัวกลมในวัยเยาว์จึงกลายร่างเป็นหงส์ขาว ทำให้ใจเขาไหวหวั่นได้เพียงนี้
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น